Glassaholic ร้านแว่นตาชื่อดังที่มีจุดเริ่มต้นที่สยาม และขยายไปมากถึง 40 สาขา คอนเซปต์ของร้าน Glassaholic เป็นร้านแว่นตาที่อยากให้ทุกคนได้สนุกสนาน เข้ามาค้นหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง ด้วยการเป็นศูนย์รวมของแว่นตาและแว่นกันแดดครบทุกแบรนด์ดังในเมืองไทย เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์เลนส์สายตาระดับโลกอย่าง ZEISS รวมไปถึงการคัดสรรคอลเลคชันใหม่เข้ามาอัปเดตเทรนด์อยู่เสมอ มีสินค้าให้เลือกในร้านในทุกแบรนด์มากกว่า 50 รุ่น ที่พร้อมดูแลลูกค้าที่เป็นคนละเอียดในทุกไลฟ์สไตล์ และพร้อมจะเลือกสิ่งที่เหมาะให้กับตัวเอง

 

วันนี้ SHOPLINE ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ คุณเพ็ญธิดา พลพิพัฒนพงศ์ เจ้าของธุรกิจแว่นตาแบรนด์ Glassaholic เกี่ยวกับที่มาของร้าน Glassaholic และผลกระทบจากการเปลี่ยนมาขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ร้านค้า

จุดเริ่มต้นของ Glassaholic มีที่มาอย่างไร?

“ร้านของเราก่อตั้งมาประมาณ10 กว่าปี ร้านแรกของเราอยู่ที่สยาม สินค้าที่ช่วยตัดสายสะดือให้ร้านเราเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดก็คือ หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายแว่นตา Super เพราะในอดีตคนอาจจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของแฟชั่นเท่าไหร่ แต่แว่นตา Super ทำให้เราขายดีมาก ของแทบจะไม่พอขาย เมื่อแว่นตาได้มาเป็นแฟชั่น ทำให้ร้านเล็กๆ ในสยามของเรา ขยายมากถึง 40 สาขาทั่วประเทศ”

ช่วงโควิดที่ผ่านมาทางร้านได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง?

“ในช่วงโควิดเราเป็นธุรกิจที่พึ่งพาหน้าร้านที่ห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ทำให้เกิดผลกระทบมาก ในตลอดปีที่ผ่านมาเราก็ปรับตัวและพัฒนาน้องๆ ให้เริ่มเข้ามามีบทบาทในการขายของออนไลน์ ทั้งใน LINE และ Facebook

สิ่งที่เจอเมื่อเริ่มขายออนไลน์คือการที่ลูกค้าอยากเห็นรายละเอียดของสินค้ามากขึ้น การส่งภาพผ่านทางแชทมันไม่สะดวก เราจึงเริ่มมองหาช่องทางเป็นเว็บไซต์ เราเริ่มต้นโดยการจ้างเอเจนซีในการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งใช้เวลานานมาก และออกมาไม่ได้อยากที่ต้องการ เพราะเขามีหน้าที่แค่ทำเว็บไซต์ แต่เราเองต้องเป็นคนวางแผน ติดต่อเกี่ยวกับการเชื่อมต่อช่องทางของธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างๆ และค่อยมาให้เขามาพัฒนาต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งเราเองก็พึ่งรู้ ทำให้เรารู้สึกว่ามันยุ่งยากหลายขั้นตอน และสุดท้ายก็ออกมาครึ่งๆ กลางๆ ไม่ออกมาดั่งใจ

และฝั่งเราเองก็ใช้งานหลังบ้านยากมาก เพราะแอดมินเราไม่ได้มีความรู้เรื่องเทคนิค สิ่งที่เราต้องการคือ เว็บไซต์สำหรับขายสินค้าหรือ อีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ สามารถดูแค็ตตาล็อก มีโปรโมชั่นได้ ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งต่างๆ”

 

รู้จักกับ SHOPLINE ได้อย่างไร และ SHOPLINE ได้เข้ามาช่วยเหลือการขายของออนไลน์อย่างไร

“มีเพื่อนแนะนำมากับ SHOPLINE ว่าพึ่งเข้ามาให้บริการในไทย เราคิดว่ามันถูกใช้งานมาจากหลายประเทศแล้ว เราคิดว่ามันน่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่เสถียรพอสมควร

เราให้ทีมเราเข้าไปศึกษาและลองใช้งาน ทีมงานสามารถนำกลับมาเสนอเว็บไซต์ที่ใช้ SHOPLINE ได้ในไม่ถึง10 วัน และมีฟังก์ชันต่างๆ ที่เราเคยต้องการในเว็บไซต์เก่าครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการแบ่งสินค้าเป็นหมวดหมู่ การเขียนบล็อก การเชื่อมต่อกับ Instagram Facebook หรือ Youtube เข้ามาแทรกได้ และยังเชื่อมต่อกับการขนส่งได้ แถมยังเข้าใช้งานระบบหลังบ้านได้งาน มีลูกเล่นเยอะ ซึ่งเราเซอร์ไพรส์มากที่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

เราเป็นสินค้าแฟชั่น เราให้ความสนใจเกี่ยวกับหน้าตาของเว็บไซต์ที่สวยงามด้วยซึ่ง SHOPLINE สามารถออกแบบมาได้สวยมาก แถมยังใช้ค่าใช้จ่ายไม่สูง สิ่งที่ SHOPLINE คิดว่าใช้จ่ายมาคือมันถูกมาก”

สิ่งที่ทางGlassaholic ได้เรียนรู้จากการปรับตัวมาขายออนไลน์

“ในโลกออนไลน์มันไม่มีอะไรผิดอะไรถูกถาวร สิ่งที่เคยทำแล้วใช้ในอนาคตอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เราต้องปรับตัวตลอดเวลา รวมไปถึงการเข้าใจลูกค้าว่าเป็นคนแบบไหน ชอบการสื่อสารและคอนเทนต์แบบไหน ในการที่เราจะพยายามเข้าไปถึงลูกค้าผ่านคอนเทนต์ อีกสิ่งที่สำคัญคือ ทีมงานที่จะต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจ เพราะสินค้าบางชิ้นมีราคาสูง เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามีความเชื่อใจ”

 SHOPLINE พร้อมเป็นตัวช่วยแม่ค้าออนไลน์การทำธุรกิจขายออนไลน์ด้วยเว็บไซต์ร้านค้าแบบสำเร็จรูปใช้งานได้ทันทีด้วย ⭐ Website E-commerce Solution  แพ็กเกจอีคอมเมิร์ซสร้างเว็บไซต์ร้านค้าที่คุณออกแบบเองได้ เพียงเดือนล่ะ 599 บาท ครบทุกฟังก์ชั่นสำหรับขายสินค้าออนไลน์ ออกแบบง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด เพิ่มสินค้า พร้อมขายได้ทันที ไม่กี่ขั้นตอน (เรียนรู้เพิ่มเติม คลิก)  หากท่านไหนสนใจอยากทดลองใช้งานฟรี 14 วัน สามารถเข้ามาใช้งานได้ทันที คลิก 


Copyright: SHOPLINE มีการรักษาลิขสิทธิ์ของแต่ละบทความ สำหรับการใช้อ้างอิงใดๆ ใบเสนอราคา รีโพสต์และอื่น ๆ ต้องได้รับอนุญาตจาก SHOPLINE

 

Facebook Plugins