“โลกออนไลน์มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว ไม่ใช่แค่แบ่งเป็นออฟไลน์กับออนไลน์ มันปฎิเสธไม่ได้แล้วว่าเส้นทางนี้ยังไงทุกคนก็ต้องเดินมา” คือคำพูดของเจ้าของธุรกิจขายของสัตว์เลี้ยง K.U. Garden ที่ได้โอกาสสานต่อธุรกิจครอบครัว และตัดสินใจบุกแพลตฟอร์มสร้างช่องทางขายออนไลน์ พลิกยอดขายให้เติบโตไปอีกขั้นจากรุ่นก่อน “เชื่อว่าตอนนี้ร้านค้าเองทุกร้านอาจจะมีหน้าร้านออนไลน์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ทุกร้านค้าแข่งกันอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะใช้ร้านค้าทางออนไลน์ได้เต็มประสิทธิภาพมากแค่ไหน”
ปัจจุบัน K.U. Garden ก้าวมาเป็นธุรกิจขายของสัตว์เลี้ยงทั้งส่งและปลีกครบวงจรแถวหน้าของไทย ที่เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงหลายเจ้าใฝ่ฝันอยากเข้ามาร่วมเป็นคู่ค้าด้วย วันนี้ SHOPLINE ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ คุณจั๊ม ( อรณา เลาหวินิจ) ผู้จัดการแผนกออนไลน์ K.U. garden และคุณจ๋อม ( ญาดา เลาหวินิจ) ผู้จัดการทั่วไปแผนกขายส่ง K.U.garden ที่จะมาช่วยเผยเคล็ดที่ไม่ลับที่ทำให้ทั้งคู่สานต่อกิจการของครอบครัวให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการรุกตลาดออนไลน์จนเติบโตก้าวกระโดดถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของธุรกิจ K.U. Garden…เริ่มจากร้านขายต้นไม้
เริ่มแรกคุณพ่อกับคุณแม่เป็นนิสิตที่ม.เกษตรด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยเอา K.U. อักษรย่อของมหาวิทยาลัยมาตั้งชื่อร้านว่า K.U.garden โดยเริ่มจากขายต้นไม้ อุปกรณ์การเกษตรก่อน แล้วก็แตกไลน์มาเรื่อยๆ เป็นอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง หลักๆจะขายของเกี่ยวกับสุนัข ปลา และต้นไม้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกกิจกรรมในครอบครัว แต่ปัจจุบันไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ตลาดมันก็เลยเติบโตอย่างรวดเร็ว เราก็เลยหันมาเน้นทำในส่วนของสัตว์เลี้ยงมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งจริงๆ ตอนนี้ตลาดของการทำสวนก็เริ่มกลับมาบ้าง แต่ก็ยังเป็นกลุ่มเฉพาะ
ปัจจุบัน K.U. Garden หน้าร้านมีกี่สาขา มีช่องทางใดการขายทางใดบ้าง
มีทั้งหมด 3 สาขา สาขาที่ใหญ่ที่สุดคือบางแค รองลงมาคือนนทบุรี และศรีนครินทร์ นอกจากนี้ก็มีทางออนไลน์ทั้ง Facebook, Instagram และไลน์แอด ให้ลูกค้ามาซื้อได้ทั้งแบบขายส่งซื้อไปขายต่อ และขายปลีกซื้อไปไว้ใช้เอง เราทำแบบครบวงจร ก็คือแทบจะมีครบทุกรูปแบบทั้งขายส่ง ขายปลีก ออนไลน์ ออฟไลน์ พยายามครอบคลุมให้หมดทุกช่องทางค่ะ
“แม้ว่าเราจะมีฐานลูกค้าจำนวนนึงแล้ว แต่เราไม่หยุดที่จะสร้างความเชื่อถือของแบรนด์เราให้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แต่ออฟไลน์เองเราก็พยายามพัฒนาให้ศักยภาพของร้านเราดีขึ้นเรื่อยๆ”
ทำไม K.U. garden ถึงมีลูกค้าเยอะ จุดแข็งของเราคืออะไร
เรามีความหลากหลายมากกว่าคู่แข่ง เรามีสต็อกสินค้าที่มากกว่าคนอื่น เราได้เปรียบจากการที่เราทำทั้งค้าส่งและค้าปลีก นอกเหนือจากนั้นก็คือเราเป็นร้านที่ได้รับความไว้วางใจมานานทั้งจากซัพพลายเออร์ที่ส่งสินค้าให้เรา และจากลูกค้าของเราเอง
ที่สำคัญจุดแข็งหลักของเราเลยคือราคาเราเป็นมิตร ทำให้คนเชื่อใจ ทุกครั้งที่มีสินค้าอะไรเข้ามาในตลาด ลูกค้าจะเชื่อใจได้ว่า เราจะขายในราคาที่ไม่หลอกฟันเค้าแน่นอน ลูกค้าสามารถมาช็อปปิ้งในร้านได้ในจำนวนเยอะๆและสบายใจได้ว่าทุกชิ้นที่หยิบไปคุ้มค่า เป็นราคาที่เหมาะสม
อีกอย่างคือเราเปิดมานานแล้วด้วย ก็ทำให้เรามีประวัติ มีความไว้วางใจ สะสมฐานลูกค้ามายาวนานกว่า 20 ปี แม้ว่าเราจะมีฐานลูกค้าจำนวนนึงแล้ว แต่เราไม่หยุดที่จะสร้างความเชื่อถือของแบรนด์เราให้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แต่ออฟไลน์เองเราก็พยายามพัฒนาให้ศักยภาพของร้านเราดีขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
เนื่องจากว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจะต่างจากอุตสาหกรรมอื่นตรงที่ “คนใช้ไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้ใช้” เพราะฉะนั้นจุดขายของสินค้าต่างๆ ต้องนำเสนอให้ชัดเจนมากที่สุด เพื่อให้ถูกกับพฤติกรรมของผู้ซื้อ และสิ่งที่เค้าคิดว่าสัตว์เลี้ยงของเขาจะเป็น อันนี้ก็เลยเป็นเหมือนความพิเศษของวงการนี้ที่สินค้าทุกตัวจะต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน ตัวไหนที่สื่อสารไม่ค่อยชัดเจนก็อาจจะทำตลาดยากนิดนึง
ทำไมถึงหันมาบุกตลาดขายสินค้าออนไลน์
“จริงๆคนอายุเท่าเราก็น่าจะรู้ว่าโลกออนไลน์มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว ไม่ใช่แค่แบ่งเป็นออฟไลน์กับออนไลน์ มันปฎิเสธไม่ได้อยู่แล้วว่าเส้นทางนี้ยังไงทุกคนก็ต้องเดินมา”
K.U. garden เป็นเหมือนธุรกิจครอบครัว ซึ่งเราเป็นเจนเนอเรชันสอง จริงๆคนอายุเท่าเราก็น่าจะรู้ว่าโลกออนไลน์มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว ไม่ใช่แค่แบ่งเป็นออฟไลน์กับออนไลน์ มันปฎิเสธไม่ได้อยู่แล้วว่าเส้นทางนี้ยังไงทุกคนก็ต้องเดินมา เพราะฉะนั้นตั้งแต่ที่เรามาเริ่มทำงานที่นี่อย่างจริงจัง เราก็รู้แล้วว่ายังไงเราต้องไปออนไลน์ แต่เราจะไปยังไง เพราะเรายังมีลูกค้าขายส่งด้วย ถ้าเราไปลงมาร์เก็ตเพลสเองแล้วลูกค้าขายส่งของเราที่ขายอยู่ในมาร์เก็ตเพลสจะทำยังไง เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างช่องทางและขายผ่านบนช่องทางของเราเอง
การทำตลาดออนไลน์และสร้างแบรนด์ K.U. garden ให้แข็งแกร่ง เริ่มต้นจากอะไรบ้าง
เริ่มแรกเรามีไลน์แอดก่อน ทุกครั้งที่เราไปออกอีเวนต์เราก็มีจะแจกคอนแทก ส่วนเพจ Facebook เราก็มีทำกิจกรรมทั้งยิงโฆษณา เพิ่ม engagement กับลูกค้า ทำยังไงก็ได้ให้ K.U. garden เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในทุกทางที่สามารถทำได้
เริ่มขายสินค้าผ่านไลฟ์ได้ยังไง
หลังจากที่เราทำเพจทำกิจกรรมมาสักพัก เราก็เริ่มมองหาอะไรใหม่ๆ ซึ่งเราก็เริ่มรู้แล้วว่าไลฟ์สดตอนนี้เป็นกระแสใครๆก็ทำ เราก็มองว่าเราจะทำอย่างไรให้เหมาะกับเรา เราก็เลยเริ่มที่จะคุยกับแบรนด์คู่ค้าก่อนว่ามีแบรนด์ไหนที่อยากจะมาพาร์ทเนอร์ ทำโปรโมชันด้วยกันเพื่อที่จะทำให้ตัวไลฟ์สดของเรามีความน่าสนใจยิ่งขึ้น หลังจากที่เราได้พาร์ทเนอร์แล้ว เราก็เลยเริ่มตัดสินใจทำไลฟ์สดครั้งแรกขึ้นมาค่ะ
จุดเริ่มต้นการใช้ SHOPLINE
จริงๆเราไลฟ์สดมาหลายครั้งก่อนที่จะมาเจอ SHOPLINE แล้วทุกครั้งเราก็จะทำด้วยวิธีธรรมดามาก ก็คือบอกโปรไปแล้วลูกค้าก็จะพิมพ์มาใน inbox เราก็จะตอบกลับ เราก็เริ่มเจอปัญหาว่ามีคนต้องการเยอะแต่เราตอบไม่หมด เราตอบช้าเกินไป อันนี้คือสิ่งที่ได้รับคอมเมนต์มาเยอะที่สุด ที่นี้เราก็เลยเริ่มมองหาตัวช่วยว่า คนอื่นเค้าทำกันยังไง เราไม่ใช่คนแรกที่เจอปัญหานี้อยู่แล้ว คนอื่นที่รับลูกค้าไม่ทันทำยังไง เราเลยเริ่มมองหาโปรแกรมตัวช่วยต่างๆ แล้วมาเจอว่า อ๋อ มี SHOPLINE ด้วยนะ เป็นตัวช่วยอีกตัวช่วยนึง
ทำไมถึงเลือกใช้ SHOPLINE
ช่วงที่ศึกษาหาตัวช่วยมีติดต่อไปหลายเจ้า สิ่งที่เจอคือหลายๆเจ้า ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรจะให้ติดต่อเข้าแอดมิน ซึ่งส่วนตัวมีคำถามเยอะมาก ก็เลยกังวลว่าถ้าเราเจอปัญหาระหว่างใช้งานแล้วใครจะช่วยเราได้ ถ้าเราต้องมารอแอดมินตอบ แต่ของ SHOPLINE มีทีมซัพพอร์ต มีเทรนนิ่งก่อนใช้งานด้วย และทุกครั้งที่มีปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อทั้งพี่เซลล์ ทีมซัพพอร์ต และในระบบก็มีแอดมินให้สื่อสารได้ตลอดเวลาด้วย ก็เลยเป็นที่มาที่ทำให้เราเลือก SHOPLINE ซึ่งของ SHOPLINE ก็ราคาถูกและคุ้มค่ามากๆเหมือนกัน
ฟีเจอร์ SHOPLINE อันไหนบ้าง ที่ชอบ
ชอบสุดเลยก็คือดูดคอมเมนต์ CF เนอะ อันนี้เป็นฟังก์ชันที่ใช้บ่อยที่สุด แต่ว่าที่รู้สึกว่า SHOPLINE พิเศษกว่าคนอื่น เพราะ SHOPLINE เป็นระบบที่ลึกกว่านั้น ไม่ใช่แค่ดูดคอมเมนต์ แต่เราสามารถตั้งค่าโปรโมชันได้ด้วย ได้ตั้งแต่ตั้งค่าง่ายๆ แบบให้ลูกค้าพิมพ์คีย์เวิร์ดเข้ามาเพื่อเล่นเกมจับของรางวัล แจกส่วนลด หรือว่าลึกไปกว่านั้นอย่างโปรซ้อนโปร SHOPLINE ก็ทำได้ มีตั้งค่าแคมเปญ และโปรโมชันที่ชอบมากๆ เพราะทำโปรโมชันออนท็อปในออนท็อปไปอีกได้ (ซึ่งจริงๆอันนี้ถ้าของเจ้าอื่นคือมันคือต้องเป็นระบบ POS แล้วนะ ถึงจะทำได้ไม่ใช่ระบบแบบนี้)
เคยทำกิจกรรมร่วมสนุกในออนไลน์อะไรมาแล้วบ้าง
ทางร้านลองทำกิจกรรมกับระบบ SHOPLINE มาทุกอย่างแล้ว ทั้งให้พิมพ์โค้ดเพื่อให้จับฉลาก พิมพ์คีย์เวิร์ดเพื่อแจกส่วนลด ขณะไลฟ์เลย แต่อย่างที่บอกว่าชอบที่สุดก็คือออนท็อปโปรโมชัน มันจะเป็นฟังก์ชันที่ชื่อว่าโปรโมชันและแคมเปญ ถ้าเกิดลูกค้ามาซื้อเปิดบิลในระบบ อัปสลิปลงกับระบบ SHOPLINE ครั้งแรก เราก็จะให้ของพิเศษเพิ่มไปอีกเพื่อที่จะทำให้ลูกค้าหันมาใช้ระบบ 100% ซึ่งจะทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น
ก่อนเริ่มไลฟ์ กับหลังไลฟ์ต่างยังไงบ้าง ยอดขายดีขึ้นมั้ย
เริ่มแรกอาจจะมีการปรับตัวนิดนึงในเรื่องการสื่อสารกับลูกค้า เพราะถ้าเป็นช่องทางออฟไลน์ก็จะสื่อสารแบบตรงๆเลย มาปุ๊บลูกค้าอยากได้อะไรก็หยิบจับกันไป ในทางออนไลน์ลูกค้าไม่สามารถเห็นของได้จริง แต่ในขณะเดียวกันเค้าก้มีเวลาฟังเราอธิบายมากขึ้น สื่อสารกับเราได้มากขึ้น
พอลูกค้าเริ่มคุ้นเคยกับระบบออนไลน์มากขึ้นแล้ว รู้แล้วว่าจะติดต่อกับทางร้านต้องเข้าช่องทางไหน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือแอดมินจะต้องรับทุกอย่างให้ทัน ซึ่งก่อนหน้านี้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วคือแอดมินรับไม่ทัน SHOPLINE ก็เลยมาเหมือนเป็นตัวช่วยว่า ก็ไม่เห็นต้องรอแอดมินนี่ ทุกคนก็ซื้อของได้เองผ่านระบบอัตโนมัติ พอซื้อเสร็จแล้ว ก็รู้จำนวนยอดว่าต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ รู้ว่าต้องโอนเงินไปช่องทางไหน เสร็จแล้วก็โอนเงินเข้าไป ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย การสั่งซื้อสมบูรณ์ ก็เหลือแค่ว่าแจ้งรอบส่งอย่างเดียวว่าจะส่งเมื่อไหร่
“SHOPLINE เป็นเหมือนเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเรื่องการตัดขั้นตอนการดำเนินการ…ช่วยให้ยอดขายของร้านเราในเชิงออนไลน์เพิ่มขึ้นมาก สามารถรับออเดอร์ได้มากขึ้น เร็วขึ้นค่ะ”
จริงๆแล้ว SHOPLINE เป็นเหมือนเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเรื่องการตัดขั้นตอนการดำเนินการ ปกติขั้นตอนดำเนินการกว่าจะปิดบิลได้ต้องคุยกับสามระลอก ระลอกหนึ่งก็คือแจ้งมาก่อนว่าอยากได้อะไร ระลอกสองสรุปบิลให้ ระลอกสามโอนชำระมาแล้วถึงจะไปที่จัดส่ง
แต่ว่าพอมี SHOPLINE ขึ้นมามันเหมือนตัดตอนเลย มันแค่ว่าโอเคลูกค้าซื้อให้เสร็จนะ โอนเงินชำระให้เสร็จแล้วด้วย แอดมินเข้าไปเพื่อรับทราบว่าโอเคค่ะยืนยัน แล้วก็เช็คว่ายอดเงินถูกต้องนะ แจ้งรอบส่งแล้วจบเลยค่ะ อันนี้มันช่วยให้ยอดขายของร้านเราในเชิงออนไลน์เพิ่มขึ้นมาก สามารถรับออเดอร์ได้ มากขึ้น เร็วขึ้น คือตอนนี้เอาจริงๆ ถ้ากลับไปทำระบบแอดมินเหมือนเดิม คือจำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านี้ทำได้ยังไง ทำไมแอดมินถึงถึกขนาดนั้น ตอบทุกคนได้ครบมากขนาดนั้น อย่างงี้อ่ะค่ะ
“ถ้ากลับไปทำระบบแอดมินเหมือนเดิม คือจำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านี้ทำได้ยังไง ทำไมแอดมินถึงถึกขนาดนั้น ตอบทุกคนได้ครบมากขนาดนั้น”
บริการหลังการขายของ SHOPLINE เป็นอย่างไร
ช่วงแรกก่อนเริ่มใช้งาน SHOPLINE ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการพีอาร์เทรนนิงจาก SHOPLINE ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับฝ่ายเทคนิคเชิงลึก ซึ่งแม้ว่าโครงการพีอาร์นั้นจะจบไปแล้ว แต่ว่าทีมฝ่ายเทคนิคก็ยังดูแลเราอยู่เลย ก็ยังมีทักมาถามอยู่เลยว่าติดตรงไหนไหม ให้ช่วยอะไรไหม หลังจากนั้นพอมาเป็นลูกค้า SHOPLINE จริงๆแล้ว ติดต่อทีมเซลล์ไปทุกครั้ง ก็ตอบกลับมาเร็วเสมอ อันนี้เป็นเรื่องที่ประทับใจ
ฝากทิ้งท้ายให้ผู้ที่สนใจเริ่มธุรกิจออนไลน์ หรือไลฟ์สดขายของ
ณ ปัจจุบันนี้ ออนไลน์เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทุกคนปฎิเสธไม่ได้อยู่แล้ว และก็ เชื่อว่าตอนนี้ร้านค้าเองทุกร้านอาจจะมีหน้าร้านออนไลน์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ทุกร้านค้าแข่งกันอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะใช้ร้านค้าทางออนไลน์ได้เต็มประสิทธิภาพมากแค่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วการเริ่มทำไลฟ์สดหรืออะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ ก็ต้องอยู่ที่เราเตรียมตัวยังไง สิ่งที่เรานำเสนอมันคืออะไร เราเตรียมตัวให้ดีกับช่องทางนำเสนอ แล้วต่อไปอยู่ที่หน้างานแล้วว่าแบบเราจะเจอกับลูกค้าแบบไหน มันก็จะมีทั้งช่วงที่แบบไม่ค่อยมีคนดู แล้วก็มีช่วงที่แบบโอเคมีคนดูเพิ่มมากขึ้นแล้ว มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่กังวลว่าเดี๋ยวทำแล้วไม่มีคนดู หรือไม่เอาถ้าทำแล้วเดี๋ยวใครจะตอบแชท จริงๆแล้วปัญหาทุกอย่างที่เข้ามามันเหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าตอนนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง และเราทำให้ดีขึ้นได้ยังไง เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากทำไลฟ์สด ตอนนี้มันมีอุปกรณ์ช่วยเยอะมากไม่ต้องกังวล ลองทำแล้วเดี๋ยวเราก็รู้ว่าต้องแก้ตรงไหน ต้องปรับตรงไหน
SHOPLINE พร้อมสนับสนุนโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ให้กับแม่ค้าออนไลน์ทุกคน ให้คุณเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ร้านค้าหรือระบบดูด CF ที่ช่วยให้คุณขายของผ่านโซเชียลได้ดีอย่างราบรื่น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมทั้งทดลองใช้งานฟรี 14 วันได้ทันทีที่ LINE : @shoplineth หรือคลิกที่นี่
Facebook Plugins
แพลตฟอร์มให้บริการด้านธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งเว็บไซต์ การตลาด การจัดการออร์เดอร์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ เพิ่มยอดขาย และประหยัดเวลาได้มากขึ้น
Leave A Comment