สรุปบทความ
- การเขียนโฆษณาที่ดี ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับสินค้า จำนำไปสู่การสร้างยอดขายและช่วยให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
- ควรมองหา BrandVoice ของแบรนด์ตัวเองที่จะเป็นตัวแทนในการสื่อสารของแบรนด์ ให้ลูกค้าสามารถจดจำสินค้าของเราได้
แม้ว่าในการโฆษณาในปัจจุบันจะเต็มไปด้วยรูปภาพ วิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหว แต่สิ่งที่สำคัญที่ขับเคลื่อนเป้าหมายของการโฆษณา ยังคงเป็นการเขียนข้อความที่เขียนขึ้นมาเพื่อสื่อสารไปถึงผู้รับสารได้ดีที่สุด
ในฐานะเจ้าของธุรกิจ การขายของออนไลน์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ คุณยังใช้วิธีการเขียนที่น่าเบื่ออยู่ หรือไม่ดึงดูดอยู่หรือเปล่า
คุณเข้าใจแก่นแท้ของการเขียนคำโฆษณาที่ดีและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพแค่ไหน? การเขียนคำโฆษณาที่ดีสามารถพาแบรนด์เดินทางไปได้ไกล สื่อสารข้อความที่แบรนด์อยากจะกล่าวไปถึงลูกค้า รวมทั้งกระตุ้นและเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณได้
ในบทความนี้เราอยากมาแนะนำเคล็ดลับในการปรับปรุงการเขียน เปลี่ยนการเขียนโฆษณาสินค้าบนเว็บไซต์ร้านค้าของคุณให้ดึงดูดลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
1. เปลี่ยนคำอธิบายให้เข้าใจง่าย เหมือนเพื่อนบอกเพื่อน
ลูกค้านั้นต้องการคำอธิบายที่ละเอียดเกี่ยวกับสินค้าอยู่แล้ว แต่ในบางผลิตภัณฑ์อาจใช้คำอธิบายที่มีความซับซ้อนมาก โดยมีคำศัพท์ทางเทคนิคหรือข้อกำหนดเฉพาะของผลิตภัณฑ์จำนวนมากทำให้ลูกค้าที่มีความรู้ด้านเทคนิคน้อยไม่สามารถเข้าใจได้ ตัวอย่างเช่น คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ขาย iPhone บางรายอาจเป็นดังนี้:
iPhone X
- น้ำหนัก: 174 กรัม
- ขนาด: 143.6 x 70.9 x 7.7 mm.
- OS: iOS 12
- ขนาดหน้าจอ: 5.8-inch
- ความละเอียดหน้าจอ: 1125×2436
- CPU: A11 Bionic
- RAM: 3GB*
- ความจุ: 64GB / 256GB
ข้อความเหล่านี้เป็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่บอกถึงคุณลักษณะของสินค้า ซึ่งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจถึงข้อดีของมันมากมานัก การเขียนคำโฆษณาที่ดีคือการเขียนเพื่อสื่อสารให้ได้ดีที่สุด ลองเปลี่ยนวิธีการเขียนเป็นเหมือนเพื่อนแนะนำกับเพื่อน พูดถึงข้อดีจากข้อมูลที่มี เหมือนแนะนำสินค้าให้กับคนที่รู้จัก
เรามาลองดูกันใหม่อีกครั้ง
iPhone X
- ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในทุกรุ่น สามารถเพลิดเพลินกับภาพคุณภาพระดับ HD คมชัด
- จัดเก็บเพลงได้มากถึง 60,000 เพลงด้วยความจุ 256 GB
- ชิป A11 เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 25% สามารถใช้งานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- รับภาพคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้นด้วยกล้องคู่ จับภาพได้ดีขึ้นด้วยโฟกัสที่ดีขึ้นและได้มุมที่กว้างขึ้น
แต่สิ่งสำคัญหนึ่งที่อย่าลืมคือห้ามโฆษณาเกินจริง ควรเล่าอยู่ในขอบเขตความเป็นจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้และผู้อ่านเข้าถึงได้เช่นเดียวกัน
2. พยายามมองหา Pain Point หรือปัญหาของลูกค้าที่สินค้าคุณสามารถแก้ไขได้
สินค้าหลายอย่างถูกสร้างขึ้นมาแก้ปัญหาที่เจอในชีวิตประจำวัน เช่นครีมกันแดดเพื่อป้องกันการถูกแดดเผา เครื่องปรับอากาศเพื่อคลายความร้อน ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการระบุปัญหาและชี้ให้เห็น Pain Point หรือปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญ การชักจูงลูกค้าให้เห็นถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์โดยการเขียนถึงปัญหาที่ลูกค้าเราประสบพบเจอ และสินค้าของเราสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาตรงนั้นได้ จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจเป้าหมายในการซื้อสินค้าของเรามากขึ้น
ยกตัวอย่าง Casper แบรนด์ที่นอนที่มีบริการส่งที่นอนฟรีและลูกค้าสามารถทดสอบการนอนหลับได้ถึง 100 คืนหากไม่พอใจสามารถส่งคืนสินค้าได้ภายใน 100 วันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การใช้คำที่สั้นกระชับและเข้าใจง่าย แสดงถึงบริการและแสดงภาพอารมณ์ที่อยากให้ลูกค้ามีโอกาสได้ทดลองนอนถึง 100 วันฟรีๆ ช่วยดึงดูดข้อมูลที่ลูกค้าอยากจะสื่อสารไปถึงคนที่กำลังมองหาที่นอน
[Pictures source: https://casper.com/]
และอีกโฆษณาหนึ่งที่เล่นคำว่า One Perfect Mattress ที่เอาไปนำเสนอกับภาพโฆษณาที่นอนกับสิ่งต่างๆที่สามารถอยู่บนที่นอนได้อย่างลงตัว ทำให้ลูกค้ามองเห็นถึงความครบสมบูรณ์ของที่นอนที่สามารถเหมาะกับตัวเองได้เช่นกัน
3. เขียนแนวตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
การเขียนแนวตั้งคำถามเป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อดึงดูดความสนใจ เทคนิคสำคัญคือไม่ควรเป็นการพาดหัวข่าวด้วยคำถามที่ลูกค้าสามารถตอบได้ทันที มิเช่นนั้นลูกค้าจะไม่อยากเข้ามาอ่านต่อในสิ่งที่คุณกำลังจะบอก ให้คิดว่าคำถามที่คุณเขียนมานั้นเป็นเสมือนกับคำเชิญชวนให้ผู้ชมมีความอยากรู้และเข้ามาอ่านต่อเพื่อให้ได้คำตอบ
ตัวอย่างการถามคำถามที่ดี
- ธุรกิจออนไลน์ของคุณควรใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างรายได้?
- รู้ไหมว่าข้อผิดพลาด 5 อันดับแรกของบล็อกเกอร์ส่วนใหญ่คืออะไร?
รูปแบบนี้จะเหมาะกับการเอามาเขียนบทความเพื่อดึงดูดลูกค้าเข้าในเว็บไซต์ เทคนิคดีๆในการเขียนสไตล์ตั้งคำถามอีกอย่างถึง เปิดบทความให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยมีคุณเป็นคนตั้งคำถามและให้ข้อมูลที่เป็นความจริง และเปิดพื้นที่คำถามให้เล่าผู้เข้าชมเข้ามาแลกเปลี่ยนบทสนทนากันเพื่อเพิ่มสีสันให้กับบทความของคุณ
4.เลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของคุณ
หากสินค้าของคุณมีความชำเพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่ม ควรเลือกใช้คำที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพิ่มเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยการกำหนด Brand Voice ของแบรนด์เพื่อเป็นตัวแทนในการเล่าถึงสินค้าของคุณ กำหนดแนวทางการใช้คำพูดเพื่อแสดงถึงบุคลิกหรือภาพลักษณ์ที่คุณตั้งใจให้แบรนด์ของคุณเป็น และส่งตรงไปถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดีที่สุด
ตัวอย่าง
ภาษาที่ทรงพลังและสามารถยกระดับสินค้าได้ – Dove ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและมีพลัง เล่นน้อยแต่มากแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายในการใช้สินค้าที่ได้ผลที่ยิ่งใหญ่
ภาษาที่ชัดเจนและให้ข้อมูล – MailChimp เลือกใช้การสื่อสารที่ดูเป็นทางการใช้ศัพท์เฉพาะที่สามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างครบถ้วนละเอียดและชัดเจนแก่ผู้รับสารที่เป็นเป้าหมายของเขา
ภาษาที่ชัดเจนและให้ข้อมูล – MailChimp เลือกใช้การสื่อสารที่ดูเป็นทางการใช้ศัพท์เฉพาะที่สามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างครบถ้วนละเอียดและชัดเจนแก่ผู้รับสารที่เป็นเป้าหมายของเขา
คุณอาจอยากรู้ว่าเราสามารถของ BrandVoice ของแบรนด์ตัวเองได้อย่างไร เราอยากให้ทุกคนลองมองดูข้อมูลของกลุ่มลูกค้าของคุณเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอายุ อาชีพ เพศ และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขาทั้งในเชิงประชากรและจิตวิทยา เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณได้ และสิ่งสำคัญควรใช้ BrandVoice นี้ในทุกช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับลูกค้า
5.หลักสำคัญที่ควรคิดถึง!
หากคุณเป็นมือใหม่ในการเขียนโฆษณา และไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณเขียนนั้นถูกต้องหรือไม่? ลองถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองและตรวจสอบสิ่งที่คุณเขียนดูอีกครั้ง
- หากลูกค้ามีเวลาเพียง 2-3 วินาทีในการอ่านบรรทัดแรกหรือแคมเปญโฆษณาของคุณ คิดว่าพวกเขาจะสามารถเข้าใจและรู้จักแบรนด์ของคุณได้ทันทีหรือไม่?
- ลูกค้าจะสามารถค้นหาปัญหาที่เขาเจอ และมองหาทางแก้ที่แบรนด์ของคุณสามารถแก้ปัญหา และเขียนลงไปในคำอธิบายสินค้าหรือบล็อกโพสต์ได้หรือไม่
- ลองเปรียบเทียบกับแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ที่ขายสินค้าแบบเดียวกัน คำอธิบายสินค้าของคุณโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นหรือไม่?
- คุณกำลังนำเสนอสิ่งที่คนอื่นเคยทำไปแล้วหรือเป็นข้อความใหม่ๆที่ลูกค้าอยากรู้?
- การใช้ภาษาของคุณถูกต้องเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของคุณหรือไม่?
ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กับการสื่อสารในธุรกิจของคุณ และอย่าลืมตามเก็บข้อมูลหรือผลตอบรับจากโฆษณาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามามีส่วนร่วมในโพสต์ของคุณ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น เพื่อหาวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมที่สุดกับแบรนด์และสินค้าของคุณ
สิ่งสำคัญอย่างลืมมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆในสื่อสารเพื่อเพิ่มโอกาสการขายสินค้ากับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของแบรนด์คุณ และขยายคุณค่าของแบรนด์คุณให้มีคุณค่ามากขึ้น
SHOPLINE เป็นกำลังใจในการขายของออนไลน์ เราพร้อมเป้นตัวช่วยและผู้สนับให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จ
ทดลองใช้งานฟรี 14 วัน ✨ คลิก
💚ปรึกษาฟรีแอดไลน์เลย! : @shoplineth
โทรหาเราทันที : 094 653 8866
Copyright: SHOPLINE มีการรักษาลิขสิทธิ์ของแต่ละบทความ สำหรับการใช้อ้างอิงใดๆ ใบเสนอราคา รีโพสต์และอื่น ๆ ต้องได้รับอนุญาตจาก SHOPLINE
Facebook Plugins
แพลตฟอร์มให้บริการด้านธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งเว็บไซต์ การตลาด การจัดการออร์เดอร์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ เพิ่มยอดขาย และประหยัดเวลาได้มากขึ้น
Leave A Comment